ปัญหากระ

Last updated: 25 พ.ค. 2563  |  1084 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปัญหากระ

รักษาฝ้า-กระให้หาย เป็นไปได้แล้ว !!!!
การรักษาฝ้า กระ ให้หายขาดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป !!
สาวๆ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางค์หนาเตอะเพื่อปกปิดรอยคล้ำดำจากฝ้า กระ อีกต่อไป ด้วยนวัตกรรมของเทคโนโลยีเลเซอร์ล่าสุด ที่รวมเอาคุณลักษณะของเลเซอร์ที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์ผิว ในระดับชั้นที่ลึกลงไปถึงชั้นผิวแท้ ช่วยเร่งกระบวนการกระตุ้นพลังงานในเซลล์ และฆ่าเซลล์ผิวที่ผิดปกติให้ตายไปอย่างถาวรจะรักษาฝ้าให้หายขาดต้องรู้จักฝ้ากันก่อน

ฝ้ามีด้วยกัน 3 ชนิดคะ
ฝ้าตื้น (Superficial Type) จะเห็นได้ชัดเพราะอยู่ที่เซลล์ผิวในชั้นหนังกำพร้า (ผิวชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลดำเข้ม มีขอบชัดเจน ชนิดนี้รักษาไม่ยากคะ สามารถทายาฝ้า อ่อนๆ ร่วมกันครีมกันแดด ก็สามารถลบเลือนให้หายได้

ฝ้าลึก (Deep Type) มีสีน้ำเงินอมม่วงหรือเทาอ่อนๆ ของเขตไม่ชัดเจน ฝ้าชนิดนี้รักษาให้หายยากกว่าฝ้าตื้น เนื่องจากเกิดอยู่ที่ผิวหนังชั้นลึกลงไป คือชั้นผิวหนังแท้

ฝ้าผสม (Mixed Type) จะมีลักษณะของฝ้าตื้นและฝ้าลึกปนกัน สำหรับกลุ่มนี้ก็ต้องรักษาควบคู่กันไป

สาเหตุของการเกิดฝ้า

ระดับฮอร์โมนเพศหญิง ที่เปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์ หลังคลอดบุตรหรือระหว่างรับประทานยาคุมกำเนิด
วัยหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังมีความเสื่อมโทรมและอ่อนแอลง
ความเครียดและความกังวลใจ
เผ่าพันธุ์ โดยพบว่าสาวชาวเอเชียจะเป็นฝ้ามากกว่าสาวชาวตะวันตก
การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
รังสี UV จากแสงแดด แสงไฟ และความร้อนจากเตาไฟ ตัวการที่ทำให้การสร้างเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ ส่งผลให้เกิดฝ้า กระ หรือรอยด่างดำมากขึ้น
สารเคมีและมลภาวะ ที่ได้รับจากสิ่งแวดล้อมภายนอก

สำหรับการรักษากระและฝ้า นั้นเป็นการรักษามุ่งเน้นหลักสำคัญสองประการคือหลีกเลี่ยงหรือป้องกันปัจจัยที่จะมากระตุ้นให้กระหรือฝ้าเป็นมากขึ้น ร่วมกับการพยายามรักษาให้รอยคล้ำนั้นจางลง ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิด หรือยาอื่นๆที่อาจทำให้รอยคล้ำนั้นเป็นมากขึ้น การหลีกเลี่ยงการออกแดด และจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ การเลือกครีมกันแดดจะต้องเลือกใช้ชนิดที่เหมาะสมกับปัญหาของตัวเรา ในกรณีที่มีปัญหากระหรือฝ้าควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB สำหรับค่า SPF (Sun Protection Factor) ควรมีค่าประมาณ 30 หรือสูงกว่า

การทำให้รอยคล้ำจากกระและฝ้าจางลงมีได้หลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับปัญหาฝ้าตื้นคงจะไม่ใช่ประเด็นหลัก เนื่องจากสามารถรักษาได้ง่ายด้วยการทายา และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่เร่งการขจัดเซลล์หนังกำพร้า หรือกลุ่มที่มีผลลดการสร้างเม็ดสีเมลานินเช่น ยาไฮโดรคิวโนน (Hydroquinone) กรดโคจิค (Kojic acid) หรือเจลวิตามินซี

เรามาดูการรักษาฝ้าลึก กันนะคะ

หลายท่านคงเคยได้ยินว่ามียากลุ่ม Tranxemic acid ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ทำให้บริเวณที่กำลังมีเลือดไหลออกมานั้นหยุดได้เร็วขึ้น มาประยุกต์ใช้รักษาฝ้าเนื่องจากยาชนิดนี้สามารถลดการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง มีผลทำให้ฝ้าจางลงบ้างในบางราย แต่ก็ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัย เป็นที่ยืนยันอย่างชัดเจน ปัจจุบันได้มีการนำหลักการนี้มาประยุกษ์โดยใช้การฉีดยากลุ่มนี้ลงไปยังชั้นผิวแท้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดยิ่งขึ้น ซึ่งจากการวิจัยพบว่าฝ้าจางลงอย่างมีนัยสำคัญ
การรักษาด้วยวิธีกรอผิวชนิด Microdermabrasion (หรืออาจได้ยินในชื่อของเครื่องกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ในการรักษา โดยเร่งการขจัดเซลล์ชั้นหนังกำพร้าให้ลอกหลุดเร็วขึ้น ได้ผลสำหรับฝ้าและกระที่อยู่ในชั้นตื้นๆ ข้อควรระวังคืออาจให้ผิวเกิดการระคายเคืองง่าย
การใช้เครื่องเลเซอร์ Q-Switched Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติในการรักษา กระลึก กระแดดขนาดใหญ่ ปาน หรือไฝโดยกำเนิด และรอยสักโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังต่างประเทศว่าผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ โดย Q-Switched Laser จะเข้าไปเลือกทำลายเฉพาะเซลล์เม็ดสีที่อยู่ในผิวชั้นลึก เม็ดสีที่ถูกทำลายแล้วจะแตกตัวออก แล้วเม็ดเลือดขาวจะมาเก็บกินทำลายซากสีเหล่านี้ ทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลง ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย และเกิดรอยดำหลังการรักษาในระยะเวลาเพียงแค่ประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นรอยดำต่างๆที่เกิดขึ้นจะค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด แต่แนะนำว่าควรรักษาอย่างต่อเนื่องอีก (4-8 ครั้ง) ขึ้นอยู่กับสี ความลึกและภาวะปัญหาที่ต้องการรักษา เพื่อผิวที่แข็งแรงและลดรอยด่างดำต่างๆอย่างถาวร

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com